เราสามารถนำสำนวนที่มีโครงสร้าง noun+preposition+noun=นาว+เพร็บโพซีชึน+นาว
(คำนาม+คำบุพบท+คำนาม) มาใช้ในฐานะที่เป็นกริยาวิเศษหรือขยายกริยาโดยบอกให้รู้ว่าประธานในประโยคกระทำกริยาอย่างไร
ดังนั้นประโยคที่มีสำนวนประเภทนี้อยู่มักเน้นให้เห็นถึงการกระทำของประธาน
เมื่อได้อ่านหรือได้ฟังประโยคดังกล่าวทำให้เห็นภาพชัดเจนและให้ความรู้สึกมากขึ้น สำนวนที่มีโครงสร้างลักษณะนี้มีอยู่หลายสำนวน
ตัวอย่างเช่น
Arm in arm=อารฺม อิน อารฺม (ควงแขนกัน),
back to back=แบ็ค ทู แบ็ค (หลังชนกัน), day after day=เดยฺ
อาฟวฺเทอะ เดยฺ (วันแล้ววันเล่า), face to face=เฟซ
ทู เฟซ (เผชิญหน้ากัน), hour after hour=อาวเออรฺ อาฟวฺเทอะ
อาวเออรฺ (ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า), hand in hand=แฮนดฺ
อิน แฮนดฺ (จูงมือกัน), top to bottom=ท็อพ ทู บ็อททึม
(จากบนลงล่าง) เป็นต้น
ประโยคตัวอย่างการใช้สำนวน noun+preposition+noun
1 Jack and Joy walk hand in hand.
แจ็ค แอน จอย วอลฺค แฮนดฺ อิน แฮนดฺ
(แจ็คกับจอยเดินจูงมือกัน)
2 James and Jane sit back to back.
เจมสฺ แอน เจน ซิท แบ็ค ทู แบ็ค
(เจมส์กับเจนนั่งหันหลังชนกัน)
3 I have never met with him face to face before.
ไอ แฮฟวฺ เนฟเวอ เม็ท วิดฬฺ ฮิม เฟซ ทู
เฟซ บีฟอรฺ
(ผมไม่เคยพบเขาซึ่งๆหน้ามาก่อน)
4 Mary has waited for her
husband's return day after day.
แมริ แฮซ เว็ททิด ฟอรฺ เฮอรฺ ฮัสเบินดฺส รีเทิรฺน เดยฺ อาฟเทอะ เดยฺ
(แมรี่คอยสามีกลับมาวันแล้ววันเล่า)
ข้อสังเกต การใช้สำนวนที่มีโครงสร้าง noun+preposition+noun
ในประโยคตัวอย่างทั้ง 4 ประโยคด้านบน
จะไม่มี article a, an, the นำหน้าคำนามที่อยู่ในสำนวนดังกล่าวเลยแม้ว่าคำนามเหล่านั้นจะเป็นคำนามนับได้ก็ตาม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น