อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องรู้ถึงความต่างระหว่างภาษา ตอนที่ 4

จากที่กล่าวมาในเรื่องความต่างระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาไทยเมื่อตอนที่แล้ว ตามทรรศนะของผมคิดว่าเราควรมาทำความเข้าใจถึงคำกริยากันก่อน เพราะคำกริยานั้นบอกการกระทำ เรารู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก็เพราะเกิดการกระทำหรือสิ่งต่างๆได้ดำเนินไป ในภาษาอังกฤษคำกริยานั้นมีความสำคัญมากทั้งกริยาช่วยและกริยาแท้ เพราะถ้าคำกริยาในประโยคเปลี่ยนรูปไปความหมายก็เปลี่ยนไปทันที ที่เป็นเช่นนี้เพราะคำกริยาในภาษาอังกฤษจะผันไปตามประธานและกาล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราพูดว่า

1 ฉันกินแซนวิชไปเมื่อเช้า 

2 เธอเพิ่งกินแซนวิชเสร็จ

3 พวกเขากำลังกินแซนวิช

4 เขาจะกินแซนวิชในมื้อเที่ยง

ทั้งสี่ประโยคนี้บอกให้รู้การกระทำคือ กิน ทั้งหมด แต่คนละเวลากันและคำว่ากินในภาษาไทยก็เขียนเหมือนกันทุกประโยคเรารู้ได้ว่ากินตอนไหนจากคำกริยาวิเศษณ์ แต่ในภาษาอังกฤษอาจมีหรือไม่มีคำกริยาวิเศษณ์ปรากฏอยู่ในประโยคก็ได้ แต่ที่สำคัญคำกริยาในแต่ละประโยคนั้นจะไม่เหมือนกันเลย อีกทั้งยังมีกริยาช่วยเข้ามาเป็นตัวชูโรงอีกต่างหาก มาดูประโยคภาษาอังกฤษที่แปลมาจากประโยคภาษาไทยสี่ประโยคด้านบนกันครับ

1. I had sandwich for breakfast.
ไอ แฮด แซนดฺวิช ฟอรฺ เบรคฟาสทฺ
(ฉันกินแซนด์วิชไปเมื่อเช้า)

2. She has just had sandwich.
ชี แฮซ จัสทฺ แฮด แซนดฺิวิช
(เธอเพิ่งกินแซนด์วิชเสร็จ)

3. They are having sandwich.
เดยฺ อารฺ แฮฟวิง แซนดฺวิช
(พวกเขากำลังกินแซนด์วิช)

4.  He will have sandwich for lunch.
ฮี วิล แฮฟวฺ แซนดฺวิช ฟอรฺ ลันชฺ
(เขาจะกินแซนดฺวิชในมื้อเที่ยง)

เราจะเห็นได้ว่า คำว่ากิน ซี่งในประโยคภาษาอังกฤษเหล่านี้ได้แก่ have จะเปลี่ยนรูปไปตามประธานและเวลาไม่เหมือนกันซักประโยค และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องทำความเข้าใจคำกริยาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นโดยเฉพาะกริยาช่วยเราควรมาทำความเข้าใจกันก่อนเป็นอันดับแรกครับ

บทความถัดไป
บทความก่อนหน้า

ความคิดเห็น