อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องรู้ถึงความต่างระหว่างภาษา ตอนที่ 3

อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องรู้ถึงความต่างระหว่างภาษา ตอนที่ 3 จะพูดถึงความต่างระหว่างคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษกับคำคุณศัพท์ในภาษาไทย

ภาษาอังกฤษคำคุณศัพท์จะอยู่หน้าคำนามซึ่งต่างกับภาษาไทยที่วางคุณศัพท์ไว้หลังคำนาม ตัวอย่างเช่นถ้าเราจะพูดว่า

1 ฉันมีรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง

เราจะเห็นว่า คำคุณศัพท์ “สีดำ กับ คันหนึ่ง” นั้นวางอยู่หลังคำว่ารถเก๋งซึ่งเป็นคำนาม แต่ลองมาดูในภาษาอังกฤษซึ่งต่างกัน

1 I have a black car.
ไอ แฮฟวฺ อะ แบล็ค คารฺ
(ฉันมีรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง)

เราจะเห็นได้ว่าคำคุณศัพท์ “สีดำ กับ คันหนึ่ง”ซึ่งในภาษาอังกฤษได้แก่คำว่า “Black” และ “a” นั้นวางอยู่หน้าคำนามคือ “car”

ภาษาอังกฤษจะมีรูปประโยคที่มี v. to be ซึ่งในภาษาไทยเรามักจะแปลว่า เป็น อยู่ คือ วางอยู่หน้าคุณศัพท์ด้วยหรือคำคุณศัพท์ตามหลัง v. to be แต่ในภาษาไทยเราไม่มีประโยคอย่างนี้เช่นถ้าเราจะพูดว่า

2 เธอสวยมาก

เราจะเห็นได้ว่าในภาษาไทยจะไม่พูดหรือเขียนว่า เธอเป็นสวยมาก ถ้ามีคำว่าเป็นจะต้องมีคำนามอยู่หน้าคำคุณศัพท์ด้วย เช่นเราอาจพูดว่า เธอเป็นคนสวยมาก แต่ลองมาดูภาษาอังกฤษในประโยคเดียวกันนี้

2 She is very beautiful.
ชี อิซ เวริ บิวทิฟุล
(เธอเป็นคนสวยมาก)

เราจะเห็นได้ว่าในภาษาอังกฤษจะมี v. to be อยู่ในประโยคลักษณะนี้เสมอ

และเมื่อเรารู้ความต่างระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาไทยแล้วเราก็พอจะมองออกว่าเราควรเริ่มเรียนภาษาอังกฤษจากตรงไหนก่อน ใช่แล้วครับผมหมายถึงความต่างนั่นเอง ความต่างที่สามารถทำให้เราพิศวงงงงวยได้ ถ้าหากพูดไปแล้วความต่างนั้นมีมากมายหากยกกันมาอธิบายพร้อมกันทีเดียวคงไม่เป็นผลดีแน่ แต่ความต่างที่กล่าวไปข้างบนนี้สามารถเป็นพื้นฐานสำหรับคนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียวเพื่อเป็นประตูไปสู่การทำความเข้าใจภาษาอังกฤษระดับสูงต่อไป และสำหรับคนที่เรียนภาษาอังกฤษมาระยะหนึ่งแล้วก็อย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะบางทีพื้นฐานง่ายๆอย่างนี้นี่แหละทำให้ตกม้าตายกันมานักต่อนักแล้วและที่กล่าวมานี้จะบอกให้รู้ถึงสิ่งที่เราจะเริ่มศึกษากันในตอนต่อไป แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไปครับ

บทความถัดไป
บทความก่อนหน้า



ความคิดเห็น