ทำหน้าที่เป็น subject complement หรือเป็นส่วนเติมเต็มที่ตามหลัง v. to be เช่น
1 That is her book and this book is hers too.
แด็ท อิซ เฮอรฺ บุค แอน ดิส บุค อิซ เฮอรฺซ ทู
(นั่นเป็นหนังสือของเธอและหนังสือเล่่มนี้ก็เป็นของเธอเช่นกัน)
ทำหน้าที่เป็น subject หรือประธานในประโยค เช่น
แด็ท อิซ เฮอรฺ บุค แอน ดิส บุค อิซ เฮอรฺซ ทู
(นั่นเป็นหนังสือของเธอและหนังสือเล่่มนี้ก็เป็นของเธอเช่นกัน)
ทำหน้าที่เป็น subject หรือประธานในประโยค เช่น
2 This book is mine. Yours is on the table.
ดิซ บุค อิซ มายนฺ ยัวรฺซ อิซ ออน เดอะ เทเบิล
(หนังสือเล่มนี้เป็นของฉัน ของคุณอยู่บนโต๊ะ)
ทำหน้าที่เป็น object หรือกรรมของประโยค เช่น
3 I gave him my telephone number and he gave me his.ไอ เกฟ ฮิม มาย เทเลโฟน นัมเบอรฺ แอน ฮี เกฟ มี ฮิซ
(ฉันให้เบอร์โทรศัพท์แก่เขาและเขาให้เบอร์โทรศัพท์ของเขาแก่ฉัน)
ทำหน้าที่เป็น กรรมของคำบุพบท เช่น
4 He is a good friend of mine.
ฮี อิซ อะ กุด เฟรนดฺ อ็อฟ มายนฺ
(เขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉันคนหนึ่ง)
ประโยคตัวอย่างสี่ประโยคข้างบนคือการใช้ possessive pronouns as pronouns (โพซเซ็ซซิฟวฺ โพรนาวซฺ แอ็ซ โพรนาวซฺ) คำสรรพนามแสดงเจ้าของที่ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม ในตำแหน่งและหน้าที่ต่างๆ (คำที่เป็นตัวหนาสีฟ้าในแต่ละประโยค คือ possessive pronouns as pronouns)ท่านสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันตามสถานการณ์ต่างๆได้
ประโยคที่ 1, 2 และ 4 เป็นเหตุการณ์ใน present simple tense
บทความถัดไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น