ในภาษาอังกฤษจะมีการนำประโยคคำพูดที่เป็นคำถามตอบรับ/ปฏิเสธ หรือประโยคคำถามที่ถามว่าใช่หรือไม่ใช่
(Yes/no question) มาเปลี่ยนเป็นประโยครายงานโดยขึ้นต้นด้วยคำว่า
“if/whether” ในบางตำราจึงเรียกว่า if/whether clause นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนประธานและกริยาบางคำด้วย ดูตัวอย่างการเขียนประโยคชนิดดังกล่าวได้ต่อไปนี้ครับ
ตัวอย่างการเขียนประโยครายงานคำถามประเภทตอบรับปฏิเสธ
1 “Is she going?”
“อิซ ชี
โกอิง?”
(“หล่อนกำลังไปใช่ไหม?”)
2 I wonder if she is going.
ไอ วันเดอรฺ อิฟ ชี อิซ โกอิง
(ผมสงสัยว่าหล่อนกำลังไปหรือเปล่า(จากประโยคคำพูดในข้อ1 เมื่อเปลี่ยนมาเป็นประโยครายงานคำถามตอบรับ/ปฏิเสธในข้อ 2 “she” เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 อยู่แล้วจึงไม่เปลี่ยนแปลง)
3 “Has she left yet?”
“แฮซ ชี เล็ฟทฺ เย็ท?”
(“หล่อนไปหรือยัง?”)
4 I would like to know whether
she has left yet.
ไอ วุด ไลคฺ ทู โนวฺ เว็ทเธอรฺ ชี แฮซ เล็ฟทฺ เย็ท
(ผมอยากรู้ว่าหล่อนไปหรือยัง(จากประโยคคำพูดในข้อ 3 เมื่อเปลี่ยนมาเป็นประโยครายงานคำถามตอบรับ/ปฏิเสธในข้อ 4 “she” ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน)
5 “Can she come?”
“แคน ชี คัม?”
(“หล่อนมาได้ไหม?”)
6 I wanted to know whether she
could come.
ไอ วอนทิด ทู โนวฺ เว็ทเธอรฺ ชี คุด คัม
(ผมต้องการรู้ว่าหล่อนมาได้หรือไม่(จากประโยคคำพูดในข้อ5 เมื่อเปลี่ยนมาเป็นประโยครายงานคำถามตอบรับ/ปฏิเสธในข้อ 6 “can” เปลี่ยนเป็น “could”)
7 “Did she leave?”
“ดิด ชี ลีฟวฺ?”
(“หล่อนไปหรือยัง?”)
8 Jame asked whether she had left.
เจม อาสคฺ เว็ทเธอรฺ ชี แฮด เล็ฟทฺ
(เจมถามว่าหล่อนไปแล้วใช่ไหม(จากประโยคคำพูดในข้อ 7 เมื่อเปลี่ยนมาเป็นประโยครายงานคำถามตอบรับปฏิเสธในข้อ 8 past tense เปลี่ยนเป็น past perfect tense)
ข้อควรจำสำหรับการเขียนประโยครายงานคำถามประเภทตอบรับ/ปฏิเสธ
1 ในตัวอย่างประโยคที่ 2 และ 4 คำกริยาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพราะกริยาในประโยคหลักอยู่ในรูป present tense
2 ในตัวอย่างประโยคที่ 6 และ 8 คำกริยามีการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ that clause ที่กล่าวมาแล้วในบทความก่อนหน้า
เพราะคำกริยาในประโยคหลักกระจายรูปเป็น past tense
3 ประโยครายงานมีการเรียงลำดับคำแบบประโยคบอกเล่า
4 นิยมใช้คำว่า “whether” ในประโยคที่เป็นทางการ
บทความถัดไป
บทความก่อนหน้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น