การใช้อนุประโยคบอกอาการ (Adverb clause of Manner)

อนุประโยคบอกอาการ เป็น Adverb clause ที่ตอบคำถามว่า  “เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอย่างไร” Adverb clause ชนิดนี้สามารถขึ้นต้นด้วยคำเชื่อม 2 คำได้แก่ as if หรือ as thoughองคำนี้มีความหมายเหมือนกันว่า “ราวกับว่า” และสามารถใช้แทนกันได้ ดูตัวอย่างการใช้อนุประโยคด้วยคำเชื่อมดังกล่าวได้ด้านล่างครับ

การใช้อนุประโยคบอกอาการ (Adverb clause of Manner) as if หรือ as though
1 She behaved as if nothing had happened.
ชี บีแฮฟวฺด แอ็ซ อิฟ นัทธิง แฮด แฮ็พเพินดฺ
(เธอทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น)

2 It sounds as though you had a good time.
อิท ซาวดฺส แอ็ซ โด ยู แฮด อะ กุด ไทมฺ
(ฟังดูราวกับว่าคุณมีความสุขสนุกสนาน)

3 Suda spoke as if she were not sure.
สุดา สโปค แอ็ซ อิฟ ชี เวอรฺ น็อท ชัวรฺ
(สุดาพูดราวกับว่าเธอไม่แน่ใจ)

4 My youngest sister ate as if she had not eaten for many days.
ไม ยังเก็สทฺ ซิสเตอรฺ เอท แอ็ซ อิฟ ชี แฮด น็อท อีททึน ฟอรฺ แมนนี เดยฺส
(น้องสาวคนเล็กสุดของผมกินราวกับว่าไม่ได้กินมาหลายวัน)

ข้อควรจำสำหรับการใช้ as if หรือ as though  ในอนุประโยคบอกอาการ (Adverb clause of Manner)
1 ข้อความที่ปรากฏใน as if หรือ as though แสดงถึงการคาดเดาหรือเป็นสิ่งที่ไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือไม่

2 อนุประโยค as if หรือ as though จะอยู่ใน tense ที่เป็นอดีตกว่า main clause เสมอ เช่นถ้า main clause อยู่ใน “present  tense” as if หรือ as though จะอยู่ใน past tense หรือถ้า main clause อยู่ใน “past tense”  as if หรือ as though จะอยู่ใน past perfect tense ดังตัวอย่างในประโยคที่ 2, 1, 3 และ 4 ตามลำดับ

3 หากเป็นกริยารูป verb to be ไม่ต้องกระจายรูปเป็น past perfect tense แต่ให้ใช้รูป were กับประธานทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ ดังตัวอย่างในประโยคที่ 3

4 as if หรือ as though สามารถอยู่ในตำแหน่งท้ายประโยคหลังหรือคำกริยาเท่านั้น
บทความถัดไป
บทความก่อนหน้า

ความคิดเห็น